ดมให้ดี กลิ่นบนรถยนต์ ที่บอกว่ารถกำลังเปลี่ยนไป

ไม่ว่าใครก็อยากให้รถยนต์ของตัวเองมีกลิ่นหอมๆ ที่ดมแล้วรู้สึกสดชื่น แต่ถ้าจู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ลองทำจมูกฟุดๆ ฟิดๆ แล้วพบว่า กลิ่นบนรถยนต์ นั้นเปลี่ยนไปจากเดิมจะทำอย่างไรดี ที่ต้องตกใจก็คือ มันไม่ใช่กลิ่นหมูปิ้ง หรือขนมนมเนยที่เราเอามากินบนรถนี่น่ะสิ เพราะเมื่อไหร่ที่ได้กลิ่นแปลกๆ (ไม่ใช่กลิ่นของกิน) แล้วล่ะก็ ให้รู้ได้เลยว่า นี่คือสัญญาณเตือนว่า มีความผิดปกติขึ้นกับรถแล้ว ซึ่ง กลิ่นบนรถยนต์ ที่ต้องระวังให้ดี มีดังนี้

 

กลิ่นไหม้

ถ้าดม กลิ่นบนรถยนต์ แล้วพบว่า มีกลิ่นไหม้ก็คงไม่ใช่อะไร อาจจะเป็นกลิ่นของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ เช่น สายไฟในรถใหม้ สายพานหลุดออกจากข้อต่อและเสียดสีกับ อะไหล่รถยนต์ ชิ้นอื่นๆ เมื่อได้กลิ่นอย่าดังทุรังเด็ดขาด ให้โทรตามช่าง เพื่อจะได้นำรถยนต์เข้า อู่ซ่อมรถยนต์ เพื่อแก้ไข

 

กลิ่นยางไหม้

ยางรถยนต์ ถือเป็นอะไหล่รถยนต์ที่สำคัญเลยก็ว่าได้ บางทียางรถยนต์หมดอายุแล้วนำมาใช้ต่อ อาจทำให้เกิดอุัติเหตุได้มากมาย เช่น รถล้ม รถชนรถ หรือ รถไฟไหม้ ได้ หากลองดมดูแล้พบว่า มีกลิ่นคล้ายยางถูกเผาอยู่ในรถ สาเหตุอาจจะมาจากท่อลมยางหลวม สายพานเลื่อน ทางที่ดีโทรตามช่างให้มาตรวจสอบยางรถยนต์จะดีที่สุด

 

กลิ่นน้ำมันเบนซิน

เมื่อน้ำมันช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้ แล้วถ้าน้ำมันรั่วจนได้กลิ่นน้ำมันจะถือว่าอันตรายมาก อาจมีสาเหตุมาจากสายหัวฉีดเชื้อเพลิงรั่ว ถังน้ำมันรั่ว ควรจอดรถแบบทันที แล้วโทรเรียกช่างหรือนำรถเข้าอู่ซ่อมรถยนต์จะดีกว่า ถ้าฝืนขับต่อไป รถไฟไหม้ ได้เกิดขึ้นแน่ๆ

 

กลิ่นหวานคล้ายน้ำเชื่อม

รถยนต์ของเราอาจจะมีอาการถังพักน้ำหล่อเย็นรั่วก็ได้ อย่าลืมว่า กลิ่นหวานๆ แบบนี้มักจะมีสัตว์ที่ชื่นชอบอยู่บ้าง ทั้งมดและหนู ถ้าปล่อยไว้ ไม่ยอมทำความสะอาด ทั้งหมดและหนูอาจจะกรูกันเข้ามาในที่รถเพราะตามกลิ่นหวานๆ มา ผลที่ตามมาคือ หนูกัดสายไฟรถยนต์ เป็นต้น

 

กลิ่นเหม็นอับ

ไม่ใช่กลิ่นเหม็นอับของเหงื่อแล้วเข้าไปหลบร้อนในรถยนต์แต่อย่างใด แต่หมายถึงกลิ่นอับที่เป็นกลิ่นของรถ บอกได้เลยว่า ระบบแอร์รถยนต์ มีปัญหาเข้าให้แล้ว อาจจะมาจากความชื้นที่มากขึ้น หรือมีราโตอยู่ในคอยล์แอร์ ใช้วิธีแก้ไขด้วยการเปิดพัดลม (โดยปรับให้แรงสุด) สักพักกลิ่นก็จะจางหายไป

 

กลิ่นบนรถยนต์ ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยอย่างหนึ่ง มองตอนนี้ก็เป็นเรื่องเล็ก ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เอาได้ ดังนั้น เจ้าของรถทุกคันควรดูแลและตรวจสอบสภาพรถยนต์อยู่เสมอ เพื่อลดอุบัติเหตุรถล้ม รถชนกัน ซึ่งทั้งหมดก็เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเอง